บทความเกี่ยวกับสาระความรู้เกี่ยวกับสินเชื่อรถบรรทุก

ประกันรถยนต์แต่ละชั้นมีความคุ้มอย่างไรบ้าง?

สำหรับท่านใดที่กำลังสนใจจะทำประกันรถยนต์แต่ไม่รู้ว่าจะทำประกันรถยนต์ประเภทไหนดี วันนี้ไพศาลแคปปิตอลสรุปความคุ้มครองของประกันแต่ละประเภทมาให้ทุกท่านแล้วค่ะ

 

1.ประกันรถยนต์ชั้น 1

ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองความเสียหายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์มากที่สุดไม่ว่าจะเป็นเหตุที่มีคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณีก็ตาม โดยให้ความคุ้มครองคร่าวๆดังนี้ ความเสียหายต่อตัวรถ การถูกโจรกรรม ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม พร้อมให้บริการรถยกตลอด24ชั่วโมง ที่สำคัญยังคุ้มครองไปถึงตัวบุคคลอย่างผู้ขับขี่และบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ไม่ว่าจะค่าประกันตัว ค่ารักษาพยาบาล หรือแม้แต่อุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันชั้น1 ก็สามารถเข้ามาช่วยจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างครอบคลุม ซึ่งประกันชั้น 1 ถือว่าเป็นประกันที่คุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด แต่เบี้ยจ่ายรายปีก็สูงเช่นกัน

 

2.ประกันรถยนต์ชั้น 2

ประกันรถยนต์ชั้น 2 จะให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุทางรถยนต์โดยจะช่วยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่อทรัพย์สินของคู่กรณี หากเกิดเหตุรถชน ทางคู่กรณีจะได้รับการซ่อมจากประกันชั้น 2 ที่เราทำอยู่ ส่วนค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของเรา เราต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนั้นเอง  นอกเหนือจากนั้นยังให้ความคุ้มครองในเรื่องการถูกโจรกรรมรถ ไฟไหม้รถยนต์ของผู้ทำประกัน ค่าประกันตัวและค่ารักษาพยาบาลที่เกิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์อีกด้วย

 

3.ประกันรถยนต์ชั้น 2+

ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ถือว่าเป็นประกันที่น่าสนใจเพราะให้ความคุ้มครองแทบจะไม่ต่างกับประกันรถยนต์ชั้น 1 แต่จ่ายเบี้ยต่อปีถูกกว่า ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้ การถูกโจรกรรม และให้บริการรถยกเมื่อเกิดอุบัติเหตุตลอด 24 ชั่วโมง จะแตกต่างเพียงแค่ประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะคุ้มครองแบบที่มีคู่กรณีที่รถชนรถเท่านั้น หากชนต้นไม้ ชนสิ่งของข้างทางจะไม่ได้รับความคุ้มครอง  ซึ่งจะต่างกับประกันชั้น 1 ที่จะคุ้มครองทั้งแบบที่มีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี

 

4.ประกันรถยนต์ชั้น 3+

ประกันรถยนต์ชั้น 3+ ให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันชั้น 2+ คือให้ความคุ้มครองคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อทรัพย์สินของคู่กรณี หากเราไปชนรถคันอื่น ประกันจะชดเชยค่าซ่อมรถให้แก่คู่กรณีตามวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์และคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อชีวิต ร่างกาย ของคู่กรณี จากการบาดเจ็บเนื่องจากอุบัติเหตุ รวมถึงกรณีเสียชีวิต  แต่จะต่างกันตรงที่ ประกัน 3+ จะไม่คุ้มครองในกรณีรถหาย ไฟไหม้รถ

 

5.ประกันรถยนต์ชั้น 3

ประกันรถยนต์ชั้น 3 จะให้ความคุ้มครองน้อยที่สุด เพราะจะซ่อมเฉพาะรถของคู่กรณี ในกรณีที่เราเป็นฝ่ายผิด แต่จะไม่รับผิดชอบความเสียหายต่อรถยนต์เรา และไม่ครอบคลุมกรณีรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ หรืออุบัติภัยทางธรรมชาติ แต่ยังคงให้ความคุ้มครองในส่วนของค่ารักษาพยาบาลและเงินชดเชยอุบัติเหตุส่วนบุคคลของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

 

6.ประกันรถยนต์ชั้น 4

ประกันรถยนต์ชั้น 4 เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดค่าเบี้ย โดยประกันชั้น 4 จะให้ความคุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อทรัพย์สินเท่านั้น จะไม่คุ้มครองการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตต่อบุคคลภายนอก หากความเสียหายจากการบาดเจ็บและเสียชีวิตเกินจำนวนเงินประกันภัย ผู้ขับต้องจ่ายเงินส่วนต่างด้วยตนเอง ซึ่งจะแตกต่างกับประกันชั้น 3 ที่จะให้ความคุ้มครองในส่วนนี้อยู่

 

หากท่านใดกำลังสนใจที่จะรีไฟแนนซ์รถบรรทุกหรือมีความต้องการที่อยากจะย้ายจากไฟแนนซ์ที่เดิมมายังที่ใหม่ สามารถเลือกใช้บริการรีไฟแนนซ์กับไพศาลแคปปิตอล เพราะเราให้บริการแบบครบวงจร

ไม่ว่าจะเป็น การจัดไฟแนนซ์  รีไฟแนนซ์ หรือ ย้ายไฟแนนซ์ ทางไพศาลแคปปิตอลมีพนักงานคอยแนะนำข้อมูลให้แก่ลูกค้าทุกท่าน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 092-9217999 หรือ LINE @Paisancapital

 

บทความที่คุณอาจสนใจ